Business

อยากจ้าง ทำแอพพลิเคชั่น ราคาเท่าไหร่ ? ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

February 1, 2024

อยากจ้าง ทำแอพพลิเคชั่น ราคาเท่าไหร่ ? ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

ช่วงหลายปีมานี้ มีผู้ใช้แอปกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่แปลกใจเลยที่ธุรกิจหลายแห่ง ต้องการมีแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเองเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ เพราะไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางติดต่อลูกค้า หรือการเพิ่มยอดขาย แอพพลิเคชั่นสามารถทำได้หากมีกลยุทธ์การตลาดที่ดี

ราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่นมือถือตามปกติ สามารถคำนวณได้จากอัตราค่าจ้างของนักพัฒนาต่อคน สมมุติ โปรเจกต์ใช้เวลาของนักพัฒนา 2 เดือน ในอัตราค่าจ้าง 30,000 บาท/เดือน ค่าจ้างทำแอพพลิเคชั่นนั้น ก็จะมีราคา 60,000 บาทโดยประมาณ

จ้างทำแอพพลิเคชั่น กับใคร

การทำแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจหรือองค์กร ถ้าไม่ใช่บริษัทมหาชนที่มีทีมนักพัฒนาพร้อม กับงบประมาณเพียงพอ ก็ยากที่จะสร้างแอพพลิเคชั่นของตัวเอง ฉะนั้นการจ้างบุคคลภายนอก (Outsource) มาทำแอพพลิเคชั่นให้ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยการจ้าง outsource จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไปนี้

ทำแอพพลิเคชั่นกับฟรีแลนซ์ (Freelance)

ราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่น 30,000 บาทขึ้นไป/เดือน ตามระยะเวลาพัฒนาที่กำหนด อาจถูกหรือแพงกว่านี้ตามประสบการณ์ทำแอปของฟรีแลนซ์ และจำนวนคนที่ร่วมกันพัฒนา
การจ้างฟรีแลนซ์สร้างแอพพลิเคชั่น เป็นตัวเลือกที่ราคาถูกที่สุดหากเทียบกับการจ้างบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือเอเจนซี่ แต่ราคาถูก ≠ แอปดีพร้อมใช้เสมอไป ยิ่งถ้าเป็นโปรเจกต์สร้างแอพพลิเคชั่นออนไลน์ขนาดใหญ่ อาจเสี่ยงที่ฟรีแลนซ์จะทิ้งงานกลางคัน เพราะทำตาม requirement ทั้งหมดไม่ไหว
หากยึดติดกับฟรีแลนซ์เพียงต้องการราคาที่ถูก สิ่งที่เสียไปอาจไม่ใช่เงินทอง แต่คือค่าเสียโอกาสในการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นได้ทันตามแผนงาน หากยอมจ่ายราคาที่เหมาะสมกับขนาดโปรเจกต์ของตัวเอง และใช้เวลาเพียง 1-3 เดือน ก็ได้แอพพลิเคชั่นตามที่ต้องการ แบบนี้จะดีกว่าไหม

ข้อดี ทำแอพพลิเคชั่นกับฟรีแลนซ์

  • ราคาทำแอพพลิเคชั่นเริ่มต้นไม่แพง
  • การทำงานมีความยืดหยุ่นสูง ต่อรองเจรจาได้ง่าย
  • ติดต่อสื่อสารกับผู้รับจ้างได้โดยตรง

ข้อพิจารณา ก่อนตัดสินใจ

  • อาจไม่สามารถทำตาม requirements ที่ต้องการได้ทั้งหมด
  • ทำงานเพียง 1-2 คน อาจเสี่ยงทิ้งงานกลางคัน ไม่เหมาะกับโปรเจกต์สร้างแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่
  • ระยะเวลาที่ใช้พัฒนาอาจนานกว่าที่กำหนด เพราะฟรีแลนซ์ติดปัญหาอื่น ๆ
  • ไม่มีเวลามาทำ document ทางการ คู่มือใช้งาน หรือการเทรนนิ่งให้กับผู้ว่าจ้างหลังส่งมอบแอพพลิเคชั่น

ทำแอพพลิเคชั่น กับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์

ราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่น 100,000 บาทขึ้นไป/เดือน ตามระยะเวลาพัฒนาที่กำหนด บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ Software House จะได้เปรียบฟรีแลนซ์ในเรื่องความน่าเชื่อถือ และความพร้อมที่สามารถรับงานสร้างแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่ หรือแอปที่มีความซับซ้อนมากได้ ด้วยการทำงานแบบแบ่งหน้าที่กันชัดเจน แต่ละส่วนของโปรเจกต์พัฒนาแอปจึงดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว และสามารถทำตาม requirement ของลูกค้าได้ทั้งหมด

ข้อดี ทำแอพพลิเคชั่นกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์

  • ใช้เวลาพัฒนาไม่นาน เพราะมีทีมงานพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่แบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน
  • มั่นใจได้ว่าไฟนอลแอปจะมีประสิทธิภาพ และได้ตรงตามความต้องการทั้งหมด
  • มีบริการหลังการขาย สามารถจัดทำเอกสารทางการ คู่มือใช้งานโดยระเอียด และการเทรนนิ่งการใช้งานให้กับผู้ว่าจ้างหลังส่งมอบแอพพลิเคชั่นได้

ข้อพิจารณา ก่อนตัดสินใจ

  • ราคาทำแอพพลิเคชั่นเริ่มต้นค่อนข้างสูง
  • การติดต่อสื่อสารเพื่อแก้ใขปัญหาอาจทำได้ล่าช้า เพาะต้องผ่านขั้นตอนของบริษัทตามลำดับ

จ้างนักพัฒนาประจำทำแอพพลิเคชั่น

ราคาจ้างนักพัฒนาประจำทำแอป 20,000 - 50,000 บาท/เดือนขึ้นไป ตามที่สัญญาจ้างกำหนด การว่าจ้าง Developer บุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นพนักงานประจำบริษัท เพื่อพัฒนาและดูแลแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยทำงานเต็มเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน และรับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน รวมถึงสิทธิ์สวัสดิการต่าง ๆ อย่างเช่น ประกันสังคม หรือค่าล่วงเวลา

ข้อดี การจ้างนักพัฒนาประจำทำแอพพลิเคชั่น

  • ให้เวลากับงานได้เต็ม 100% เพราะงานบริษัทสำคัญที่สุดเสมอ
  • บรีฟ requirement ที่ต้องการได้ง่าย และติดตามงานสะดวก เหมาะกับธุรกิจที่ดำเนินโดยอาศัยแอพพลิเคชั่นเป็นหลัก
  • ดูแลแอพพลิเคชั่นหลังพัฒนาได้อย่างครบถ้วน ทั้งการแก้ใขบัค อัปเดตแอป จนถึงการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ

ข้อพิจารณา ก่อนตัดสินใจ

  • ต้นทุนสูง เพราะเป็นพนักงานประจำ จึงมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นนอกจากเงินเดือนด้วย
  • กรณีจ้างบุคคลเดียว จะมีข้อจำกัดด้านทักษะที่อาจไม่สามารถทำตาม requirement ที่ต้องการได้ทั้งหมด
  • เมื่อเกิดเหตุทำให้พนักงานลาออกหรือย้ายงาน การจะหา Developer บุคคลอื่นมารับผิดชอบแทน อาจทำได้ยากซับซ้อน

สโคปของงาน

รายละเอียดของขอบเขตงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำแอพพลิเคชั่น เพื่อประเมินราคา เวลาที่ใช้พัฒนา และประสิทธิภาพในการทำแอป ส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่าไฟนอลแอปจะออกมาเป็นอย่างไร

ความต้องการเบื้องต้น (Initial Requirements)

ข้อมูล basic เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นที่ต้องการสร้าง ครอบคลุมตั้งแต่เหตุผลในการสร้างแอป ฟีเจอร์ที่ต้องการ กลุ่มผู้ใช้งาน ข้อมูลที่ต้องการเก็บ และข้อมูลที่ต้องการให้แสดง ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนที่ผู้รับทำแอพพลิเคชั่นจะใช้ประเมินระยะเวลาในการสร้างแอปคร่าว ๆ

รายละเอียดของงานที่ต้องทำ (Work Breakdown Structure)

ลำดับชั้นของงานทั้งหมดที่ต้องดำเนินการ เพื่อสร้างแอพพลิเคชั่น ด้วยการแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อให้สามารถประเมินระยะเวลาและค่าใช้จ่ายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

อาจเริ่มจากงานหลักที่ต้องดำเนินในการทำแอพพลิเคชั่น (งานออกแบบ UI/UX, งานพัฒนา Frontend-Backend งานทดสอบ ฯลฯ) จากนั้นจึงแตกงานหลักเป็นงานย่อย และทำไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถแบ่งย่อยได้อีก ส่วนนี้ควรทำอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้า และงบประมาณที่บานปลาย

ข้อกำหนดด้านเทคนิค (Technical Requirements)

ข้อกำหนดเกี่ยวกับเทคโนโลยีการทำแอพพลิเคชั่น ครอบคลุมตั้งแต่ภาษาที่ใช้เขียนแอพพลิเคชั่น ระบบปฏิบัติการที่รองรับ (iOS, Android, Windows หรือ Web) ฐานข้อมูล (Database) ไปจนถึงรายละเอียดของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องใช้

ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโค้ด การทดสอบ และการเผยแพร่แอปให้ผู้ใช้ download นักพัฒนาจำเป็นต้องเลือกเครื่องมือให้สอดคล้องกับรายละเอียดงานที่ต้องทำ เพราะแอปแต่ละประเภทต่างก็ต้องใช้ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือที่ต่างกันไป ทำให้ความยาก-ง่ายในการพัฒนา ส่งผลกับระยะเวลาและราคาทำแอพพลิเคชั่นด้วย

ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย (Security Requirements)

ข้อกำหนดเรื่องความปลอดภัยของแอพพลิเคชั่นที่จำเป็น เพื่อปกป้องภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์ การเข้าถึงข้อมูล และการแก้ใขหรือลบโดยไม่ได้รับอนุญาต

การรักษาความปลอดภัยให้กับแอพพลิเคชั่น ส่วนสำคัญที่ต้องออกแบบอย่างรัดกุม ระบบ security มีหลายระดับ หากต้องทำทุกส่วนของแอปให้ปลอดภัยจำเป็นต้องใช้เวลาในการออกแบบและพัฒนาเพิ่มเป็นเท่าตัว ส่งผลให้ราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่นสูงขึ้นตามไปด้วย

ลิขสิทธิ์ และซอร์สโค้ด เป็นของใคร

การจ้าง outsource ทำแอพพลิเคชั่น หากไม่ได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าลิขสิทธิ์และซอร์สโค้ด (Sourcecode) จะตกเป็นของผู้ว่าจ้างหลังส่งมอบแอพพลิเคชั่น หรืออาจเป็นของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน (ขึ้นอยู่กับการตกลง) กรณีที่ไม่ระบุไว้ในสัญญาจ้างอย่างชัดเจน ตามกฎหมายแล้วจะตกเป็นของผู้ทำแอปนั้น ๆ ไปโดยปริยาย

  • ถ้าผู้ว่าจ้างต้องการลิขสิทธิ์และซอร์สโค้ดเป็นของตัวเอง เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการใช้งานแอพพลิเคชั่นอย่างอิสระ ราคาประเมินทำแอปจึงต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเติมจากค่าพัฒนาเข้าไปด้วย โดยคิดราคาเป็น % ของค่าจ้างพัฒนา
  • กรณีที่ลิขสิทธิ์และซอร์สโค้ดเป็นของ outsource ผู้ว่าจ้างก็จะจ่ายในส่วนการพัฒนาแอปเท่านั้น ช่วยให้ราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่นถูกลง แต่ผู้สร้างอาจนำไปดัดแปลง เผยแพร่ หรือกระทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์ในอนาคตได้

เอกสารทางการ คู่มือใช้งาน และการเทรนนิ่ง

ส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ว่าจ้าง กรณีที่เป็นงานทำแอพพลิเคชั่นให้กับข้าราชการ งานด้านเอกสารทางการก็จะค่อนข้างเยอะ ต้องการคู่มือใช้งานโดยระเอียด หรืออาจต้องการคนไปเทรนนิ่งใช้งานหลังส่งมอบ ในส่วนนี้ ผู้รับจ้างทำแอพพลิเคชั่นจำเป็นต้องคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย บางบริษัทที่รับพัฒนาแอปบางแห่ง อาจมีบริการเหล่านี้ให้ฟรี หรือรวมอยู่ในราคาแพ็คเกจเรียกลูกค้าต่าง ๆ 

เช็คลิสต์ requirements เบื้องต้น ที่ควรแจ้งผู้รับทำแอพพลิเคชั่น

ข้อมูลทั่วไป

  • ชื่อแอพพลิเคชั่น
  • ประเภทของแอพพลิเคชั่น (Mobile App, Web App หรือ Desktop App)
  • เป้าหมายในการทำ (เพื่อใช้งานส่วนบุคคล/เชิงพาณิชย์ เพื่อธุรกิจ การศึกษา ฯลฯ)
  • กลุ่มผู้ใช้ (ผู้ใช้ทั่วไป ลูกค้า พนักงาน ฯลฯ)

ข้อมูลการออกแบบ

  • โลโก้ และโทนสี
  • Font ที่ต้องการใช้
  • ตัวอย่างของแอพพลิเคชั่นที่ต้องการ (ถ้ามี)

ข้อมูลเชิงเทคนิค

  • ฟีเจอร์หลักที่ต้องการให้มี
  • ภาษาที่ใช้พัฒนาแอพพลิเคชั่น
  • แพลตฟอร์มที่ใช้พัฒนา (iOS, Android, Web หรือ Windows)
  • Database ที่ใช้เก็บข้อมูล
  • ระดับการรักษาความปลอดภัยของแอป

ข้อมูลด้านการเงิน

  • ระดับการรักษาความปลอดภัยของแอป
  • งบประมาณการจ้าง outsource ทำแอพพลิเคชั่น
  • กรอบเวลาจำกัดในการพัฒนา
  • เงื่อนไขการชำระเงิน
  • อื่น ๆ

ขั้นตอนการจ้างทำแอพพลิเคชั่น

  1. คุยความต้องการ แจ้ง requirement ของแอพพลิเคชั่น ทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนเริ่มงาน
  2. ตกลงราคา พร้อมโอนมัดจำ สรุปราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่น งวดงาน และระยะเวลาที่ใช้พัฒนาพร้อมส่งมอบ เพื่อทำสัญญาและวางมัดจำงานงวดแรก
  3. เริ่มพัฒนาแอปจนเสร็จ ระหว่างพัฒนาแอป จะมีการส่งมอบหรือแจ้งความคืบหน้าของงานตามงวดที่กำหนดไว้ในสัญญา ไปเรื่อย ๆ จนพัฒนาเสร็จสิ้น
  4. ส่งมอบงาน ทางลูกค้าลองตรวจสอบแอพพลิเคชั่น ว่าได้ตามสโคปของงานที่ตกลงกันไว้ หากไม่มีส่วนใดบกพร่อง ก็จะส่งมอบงานพร้อมให้ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินงวดสุดท้าย

บทสรุป

สรุปแล้ว ราคาจ้างทำแอพพลิเคชั่น นั้นไม่มีราคาที่แน่นอน เพราะมีตัวแปลหลายอย่างที่ส่งผลต่อระยะเวลาการพัฒนา ทำให้ราคาประเมินเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เนื่องจากการคิดราคาสร้างแอพพลิเคชั่นตามปกติ จะคำนวณจากอัตราค่าจ้างของนักพัฒนาต่อคน ว่าเขามีรายได้ประมาณเท่าไร/เดือน และใช้เวลาพัฒนากี่วัน กี่สัปดาห์ หรือกี่เดือน ถึงจะทราบราคาทำแอพพลิเคชั่นคร่าว ๆ ได้ โดยตัวแปลที่มีผลต่อการประเมินราคาทำแอพพลิเคชั่น มีด้วยกันต่อไปนี้

  1. จ้างใครทำแอพพลิเคชั่น (ฟรีแลนซ์, บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือบริษัทเอเจนซี่)
  2. รายละเอียดขอบเขตงานทั้งหมด
  3. ลิขสิทธิ์ และซอร์สโค้ด
  4. เอกสารทางการ คู่มือใช้งาน และการเทรนนิ่ง

เรื่องที่กล่าวในบทความนี้ เป็นเพียงส่วนนึงที่ผู้รับทำเว็บไซต์ใช้ประเมินราคาเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดเชิงลึกอีกมาก ที่ต้องตีความตามแต่ละโปรเจกต์ที่ได้รับมา และพวกเราบริษัท Foxbith รับทำแอพพลิเคชั่น พร้อมให้คำปรึกษา และช่วยประเมินราคาสร้างแอพพลิเคชั่นของคุณตามความเป็นจริง