การออกแบบ UX UI สำหรับเว็บ E-Commerce

การออกแบบเว็บไซต์ที่มีรูปแบบสวยงาม จะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ดี  ถ้าออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานง่าย ก็จะทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือลูกค้าจดจำเว็บไซต์ของธุรกิจคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อต้องการหาซื้อสินค้าก็อาจจะทำให้นึกถึงเว็บไซต์ของคุณก่อนเสมอ ซึ่งกระบวนการออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลย

1. Navigation

‍

Navigation คือ การออกแบบเส้นทางเข้าสู่เว็บไซต์ไปยังหน้าต่าง ๆ ภายในเว็บ เพื่อนำทางให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่ากำลังอยู่ตรงไหนของเว็บไซต์

โดยที่ Navigation ไม่ได้หมายถึงแค่การใช้งาน Menu แต่จะรวมไปถึงการจัดวางโครงทั้งหมดของระบบเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ จัดหมวดหมู่สินค้าให้ชัดเจน โดยแบรนด์ที่มุ่งเน้นการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เป้าหมายของ Website E-commerce คือการซื้อสินค้าให้สะดวกและรวดเร็วที่สุด 

‍

ดังนั้นการออกแบบ Navigation จึงต้องตอบสนองผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือลูกค้าที่จะโฟกัสไปที่ Product เป็นอย่างแรก ควรดีไซน์เมนูที่ใช้งานง่าย แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน  ส่งผลใให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์จะสามารถเข้าใจและเข้าถึงสินค้าที่ต้องการ สินค้าขายดี และสินค้าแนะนำของระบบเราได้อย่างง่ายดาย นำไปสู่การตัดสินใจซื้อผ่านระบบ Payment ที่เว็บไซต์เชื่อมต่อไว้ได้โดยง่าย

‍

หลังจากทำเว็บไซต์เสร็จแล้ว ลองทดสอบเว็บไซต์ ด้วยการแชร์ให้คนในบริษัทลองใช้งานเว็บไซต์ เพื่อรับ Feedback มาปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซให้ใช้งานได้ง่ายที่สุด 

2. Mobile First

การออกแบบเว็บไซต์จำเป็นต้องให้ความสำคัญในทุกหน้าจอ Desktop, Tablet, Mobile โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าจอในมือถือ เนื่องจากพฤติกรรมผู้ใช้งานออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ยอดการใช้งานทางมือถือสูงถึง 52% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับการใช้งานผ่านอุปกรณ์ต่างๆ 

‍

เมื่อผู้คนใช้มือถือเป็นอุปกรณ์หลักในการท่องโลกออนไลน์รวมถึงการเข้าชมเว็บไซต์ การออกแบบและการสร้างเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือ สร้างประสบการณ์ที่ดี ใช้งานง่าย เช่น การจัดสัดส่วนภาพ ช่องว่าง ข้อมูล ให้เหมาะสมกับหน้าจอมือถือ เพื่อนำไปสู่การซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้เช่นกัน

3. Minimal User Interface

‍

ดีไซน์ฟังชั่นการใช้งานเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ที่สามารถเข้าใจสินค้าได้ง่าย โดยสามารถสมมุติกระบวนการตัดสินใจซื้อลูกค้าหนึ่งคนขึ้นมา แล้วออกแบบมาลงในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เช่น ผ่านภาพ Infographic ของสินค้าเพื่อสร้างความเข้าใจให้ลูกค้าได้ง่าย รวมรีวิว ปุ่มใส่ตระกร้า ปุ่มซื้อ ปุ่มสอบถาม 

‍

สิ่งสำคัญในการออกแบบระบบอีคอมเมิร์ซ ควรสื่อสารเฉพาะสิ่งที่จำเป็น เพื่อลดทอนขั้นตอนการคิดของลูกค้าให้มากที่สุดหรือใช้การโน้มน้ามผ่านข้อมูล,โปรโมชั่น เพื่อให้ลูกค้าจดจ่ออยู่กับสินค้าที่เขาต้องการ

4. Hybrid Product Gallery

การใช้ภาพสินค้าที่ลูกค้าต้องการ มาเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น 

• การใช้เม้าส์ชี้แล้วเห็นสินค้าที่ชัดเจนขึ้น
• โชว์สินค้าในมุมมอง 360°
• นำเทคโนโลยี AR/VR มาประยุกต์ใช้กับสินค้า เพื่อให้เป็นเหมือนโลกเสมือนในการทดลองใช้สินค้า

ถึงแม้ว่าธุรกิจของคุณจะใช้ฟีเจอร์อะไรมาสร้างความโดดเด่นให้สินค้าและกระตุ้นความต้องการของลูกค้า สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ ภาพหรือวีดีโอที่นำมาใช้ควรคมชัด ให้รู้สึกน่าใช้น่าซื้อ

5. Search & Filter

ฟีเจอร์ Search หรือ Filter จะช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยจะนิยมใช้กับเว็บไซต์อีคอมเมอร์สที่มีสินค้าหลายร้อยหลายพัน SKU เพียงลูกค้าพิมพ์ชื่อสินค้าในช่องค้น หรือกรองข้อมูลรายละเอียดสินค้าต่างๆ ก็จะพบสินค้าได้เร็วยิ่งขึ้น

เทคนิคคือการใส่ชื่อสินค้าให้ใกล้เคียงกับบริบทที่คนค้นหา ผ่าน Title, Description ไปในหน้าแต่ละหน้าสินค้า เพื่อให้เวลาลูกค้าค้นหาในเว็บไซต์จะได้จับคู่ตรงกับสินค้าที่มีข้อมูลใส่ไว้

6. Recommendation

ระบบ Recommendation เป็นการแนะนำสินค้าที่มีความเกี่ยวข้อง หรือใกล้เคียง เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เข้ามาช้อปในเว็บไซต์ หากลูกค้าเข้ามาไม่พบสินค้าที่เขาต้องการ หรือสินค้านั้นหมดสต๊อก ระบบจะแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสร้างยอดขายได้ รวมถึงสร้างแรงจูงในให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้มากขึ้น 

กลยุทธ์เบื้องต้นสำหรับการออกแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ E-commerce หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าของธุรกิจ ลองนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณ หรือติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญ FoxBith เรามีบริการรับออกแบบเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ