Technology

5 โปรแกรม สร้างเว็บไซต์ฟรี 2024 ทำเองได้ไม่ต้องเขียนโค้ด

April 23, 2024

5 โปรแกรม สร้างเว็บไซต์ฟรี 2024 ทำเองได้ไม่ต้องเขียนโค้ด

ปี 2024, มีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีให้เลือกใช้มากมาย อย่าง Wix, GoDaddy, Weebly, WordPress หรือ Webflow แต่ละตัวมีจุดเด่นที่ต่างกัน เหมาะกับผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม

ถ้าเป็นมือใหม่แนะนำให้เริ่มจากโปรแกรมที่ใช้งานง่ายอย่าง Wix หรือ Weebly ส่วน WordPress นั้นเหมาะกับคนที่ต้องการปรับแต่งเว็บไซต์ขั้นสูง แม้สร้างเว็บไซต์เองจะสะดวกกว่า แต่ก็ต้องยอมรับข้อจำกัดบางอย่างที่ทำเองไม่ได้ สำหรับมือใหม่ โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนทำเว็บไซต์อย่างจริงจังด้วยบริการแบบเสียเงินต่อไป

โลกออนไลน์ปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง การมีเว็บไซต์ของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ก็ควรต้องมีเว็บไซต์เพื่อแสดงตัวตน นำเสนอสินค้าบริการ และสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย

การจ้างบริษัทหรือโปรแกรมเมอร์ ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนกับฟีเจอร์ใช้งานขั้นสูง แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การสร้างเว็บไซต์ฟรีผ่านโปรแกรมหรือแพลตฟอร์ม ก็สามารถใช้ทดแทนเบื้องต้นได้ เพราะใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานเขียนโค้ดมาก่อน

ทำไมถึงสร้างเว็บไซต์ฟรี

การสร้างเว็บไซต์ฟรี หมายถึง การสร้างและออกแบบเว็บไซต์แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรในการเริ่มต้น เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการมีเว็บไซต์ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือออกแบบเว็บมาก่อน

สร้างเว็บไซต์ฟรีด้วยตัวเองนั้นมีข้อดีทั้งแง่ของต้นทุน ความเร็วในการจัดทำ และความยืดหยุ่นเรื่องการปรับแต่ง เมื่อเทียบกับการจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัทพัฒนาเว็บไซต์ ที่มีค่าใช้จ่ายในการออกแบบและพัฒนาสูง อีกทั้งกระบวนการทำงานที่ใช้เวลา การสร้างเว็บไซต์ฟรีด้วยตัวเองจึงเหมาะกับธุรกิจหรือบุคคลที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการมีตัวตนออนไลน์ในเบื้องต้น หรือทดลองทำก่อนตัดสินใจลงทุน

โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรี ที่แนะนำ

ปัจจุบันมีโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีให้เลือกใช้หลายระดับ ตั้งแต่ขั้นเบื้องต้นไปจนถึงฟีเจอร์ขั้นสูงเทียบเท่ากับเว็บไซต์มืออาชีพ มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้ตามความต้องการและประเภทธุรกิจ สามารถลากวางบนหน้าเว็บได้ง่าย ๆ พร้อมปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างสี ฟอนต์ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ไม่ต้องเขียนโค้ดเอง บางโปรแกรมอาจมีแอปสโตร์ให้เลือกติดตั้งส่วนขยาย เช่นระบบจัดการสมาชิก การชำระเงิน หรือแม้กระทั่งระบบ AI เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับหน้าเว็บ

1. Wix

Wix (wix.com) หนึ่งในโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีระดับโลก ที่เด่นเรื่องความง่ายในการใช้งาน เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานเขียนโค้ด ด้วยเครื่องมือ Drag & Drop ลากวางองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ปุ่ม ฯลฯ ไปวางบนหน้าเว็บได้อย่างอิสระ พร้อมปรับขนาด สี ตำแหน่ง ได้ตามต้องการ มีเทมเพลตให้เลือกมากกว่า 500 แบบ ครอบคลุมเว็บไซต์หลายประเภท ตั้งแต่เว็บบล็อก พอร์ตฟอลิโอ เว็บองค์กร ไปถึงร้้านค้าออนไลน์

นอกจากนี้ Wix ยังมีส่วนเสริมฟรีครบครัน ไม่ว่าจะ Wix ADI ที่ช่วยสร้างเว็บไซต์อัตโนมัติด้วย AI, Wix Turbo ช่วยเพิ่มความเร็วการโหลดเว็บไซต์, Wix SEO Wiz ช่วยเสริมการติดอันดับบน Google, Wix Ascend ที่รวมเครื่องมือการตลาดครบในที่เดียว และส่วนสริมอื่นอีกมาก ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์ฟรีเป็นเรื่องที่ง่ายและเร็ว

ข้อดีของ Wix

  1. ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ต้องเขียนโค้ด
  2. มีเทมเพลตให้เลือกใช้กว่า 500 แบบ
  3. มีส่วนเสริมครบครัน ตอบโจทย์การทำเว็บไซต์ได้หลายรูปแบบ
  4. มีระบบ SEO, Analytics ในตัว
  5. ได้พื้นที่เก็บข้อมูล 500MB และแบนด์วิดท์ไม่จำกัด
  6. เชื่อมโดเมนของตัวเองภายหลังได้

ข้อเสียของ Wix

  1. มีแบนเนอร์โฆษณาของ Wix แสดงบนเว็บไซต์ที่สร้างฟรี
  2. ไม่สามารถเปลี่ยนเทมเพลตหลังจากเผยแพร่ไปแล้วได้
  3. การปรับแต่งโค้ดเอง ทำได้ค่อนข้างจำกัด
  4. การย้ายเว็บไซต์ออกจาก Wix ทำได้ยาก ต้องสร้างใหม่บนแพลตฟอร์มอื่น
  5. มีค่าบริการรายเดือน หากต้องการนำโฆษณาออก และใช้โดเมนของตัวเอง

2. GoDaddy

ต่อมาคือ GoDaddy (godaddy.com) ผู้ให้บริการชื่อโดเมนและโฮสติ้งชั้นนำ ที่นอกจากบริการจดโดเมนแล้ว ยังมีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ฟรีในตัวอีกอย่าง (GoDaddy Website Builder) อีกด้วย สร้างเว็บไซต์ฟรีได้รวดเร็วด้วย Wizard ที่จะช่วยแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ มีจุดเด่นคือ สามารถเชื่อมโยงโดเมนกับโฮสติ้งของ GoDaddy ได้ง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งจดโดเมนและสร้างเว็บไซต์ไปพร้อมกัน

GoDaddy Website Builder มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้กว่า 100 รูปแบบ ครอบคลุมเว็บไซต์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเว็บไซต์ธุรกิจ ร้านค้าออนไลน์ Blog หรือพอร์ตโฟลิโอ โดยแต่ละเทมเพลตมีการออกแบบให้ทันสมัย รองรับการใช้งานบนมือถือ (Mobile-friendly) สามารถปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ผ่านระบบลากวาง (Drag and Drop) ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

ข้อดีของ GoDaddy

  1. ใช้ได้ฟรี (มีโฆษณา) หรือจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชันเสียเงินเพื่อปลดล็อคฟีเจอร์เพิ่มเติม
  2. จดโดเมน โฮสติ้ง และสร้างเว็บไซต์ ได้ในที่เดียว
  3. มีระบบป้องกันไวรัสและสแปมในตัว
  4. รองรับการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียได้ เช่น Facebook, Instagram, X
  5. ฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นครบถ้วน สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
  6. เชื่อถือได้ ในฐานะผู้ให้บริการโดเมนและโฮสติ้งระดับโลก

ข้อเสียของ GoDaddy

  1. เทมเพลตมีให้เลือกน้อยแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ฟรีรายอื่น
  2. การปรับแต่งองค์ประกอบและการออกแบบยังมีข้อจำกัด ไม่ยืดหยุ่นเหมือน WordPress
  3. การย้ายข้อมูลไปยังแพลตฟอร์มอื่นทำได้ยาก เพราะใช้ระบบเฉพาะของ GoDaddy
  4. เวอร์ชันฟรีมีพื้นที่และแบนด์วิดท์จำกัด
  5. ฟีเจอร์บางอย่างถูกตัดออก หรือจำกัดการใช้งานในแพลนราคาถูก

3. Weebly

Weebly (weebly.com) อีกหนึ่งเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ฟรียอดนิยม ที่โดดเด่นเรื่องของความง่ายและความสะดวกในการใช้ ด้วยระบบ Drag & Drop ที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโค้ดหรือออกแบบก็สร้างเว็บไซต์ฟรีได้ภายในไม่กี่คลิก มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกมากกว่า 50 แบบ ครอบคลุมเว็บไซต์หลากหลายประเภท

จุดเด่นของ Weebly คือฟีเจอร์ที่ครบครัน โดยเฉพาะระบบอีคอมเมิร์ซที่มาพร้อมกับเครื่องมือจัดการสต็อกสินค้า คำสั่งซื้อ การชำระเงิน และการจัดส่ง เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหรือ SME ที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์ โดยไม่ต้องติดตั้งหรือเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มภายนอกอื่น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่าง App Center ที่รวมแอปพลิเคชันกับส่วนขยายต่าง ๆ ไว้ให้เลือกใช้อีกด้วย

ข้อดีของ Weebly

  1. ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานสร้างเว็บไซต์
  2. เทมเพลตทันสมัย ใช้งานได้จริง
  3. มีระบบอีคอมเมิร์ซในตัวที่เพียงพอสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
  4. รองรับการแสดงผลบนมือถือได้ดีเยี่ยม
  5. มีแอปพลิเคชันเสริมให้ติดตั้ง เพิ่มความสามารถให้เว็บไซต์
  6. สร้างเว็บไซต์ฟรีได้ (มีโฆษณา) หรืออัปเกรดเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษ

ข้อเสียของ Weebly

  1. การปรับแต่งเทมเพลตนั้นมีจำกัด หากต้องการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่กำหนด จำเป็นต้องแก้ไข HTML/CSS
  2. ฟีเจอร์บางอย่าง ต้องอัปเกรดเป็นแพลนที่สูงขึ้นถึงจะใช้ได้
  3. การย้ายข้อมูลไปยังแพลตฟอร์มอื่นทำได้ยาก เพราะใช้ระบบเฉพาะของ Weebly
  4. ระบบอีคอมเมิร์ซปรับแต่งได้จำกัด หากต้องการฟังก์ชันที่ซับซ้อนกว่านี้ จำเป็นต้องเลือกใช้แพลตฟอร์มอื่น
  5. ลูกเล่น (Widget) และแอปที่ให้มา มีน้อยกว่า Wix หรือ WordPress

4. WordPress

WordPress (wordpress.com) แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ฟรีสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ด้วยสถิติที่ระบุว่า กว่า 43.2 ของเว็บไซต์ทั่วโลก ถูกสร้างขึ้นด้วย WordPress ทำให้กลายเป็นระบบที่ผู้ใช้จำนวนมากคุ้นเคยกันดี

หนึ่งจุดเด่นของ WordPress คือความยืดหยุ่นการปรับแต่งเว็บไซต์ ผู้ใช้สามารถเลือกธีมฟรีที่มีกว่าหมื่นธีม และติดตั้งปลั๊กอินฟรีได้มากกว่า 60,000 ตัว ช่วยให้สร้างเว็บไซต์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว, เว็บไซต์ธุรกิจ หรือเว็บไซต์ข่าวสาร

WordPress มีให้เลือกใช้ 2 รูปแบบคือ

  • WordPress.com เว็บสำเร็จรูปที่มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
  • WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ฟรี มีความยืดหยุ่น ปรับแต่งขั้นสูงได้ แต่ผู้ใช้จะต้องจดทะเบียนโดเมนกับเช่าพื้นที่โฮสติ้งด้วยตัวเอง

ในไทยเรา WordPress.org ได้รับความนิยมอย่างมาก เว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress ส่วนใหญ่จะสวยงาม รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ และง่ายต่อการทำ SEO บริษัทรับทำเว็บไซต์หลายแห่งมักจะเลือกใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์บริษัทหรือเว็บไซต์ข้อมูลที่ไม่ซับซ้อนให้กับผู้จ้าง เพราะใช้เวลาพัฒนาไม่นานและใช้งบประมาณไม่สูงมากนัก

ข้อดีของ WordPress

  1. ระบบหลังบ้านใช้งานง่ายด้วยระบบ Page Builder แบบ Drag & Drop ใช้งานง่ายแม้เป็นมือใหม่
  2. มี Plugin และ Theme ให้เลือกใช้เยอะ ยืดหยุ่นสูง สามารถสร้างเว็บไซต์ได้แทบทุกประเภท
  3. รองรับ Mobile Responsive 100%
  4. ง่ายต่อการทำ SEO
  5. มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล ชุมชนขนาดใหญ่ หาคนปรึกษาได้ง่าย
  6. ไม่จำเป็นต้องรู้ด้านการเขียนโค้ด
  7. มีระบบ Blog ให้มาในตัว

ข้อเสียของ WordPress

  1. ตัวสร้างเว็บไซต์ฟรีมีข้อจำกัดในการปรับแต่ง
  2. การติดตั้งปลั๊กอินจำนวนมาก อาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้า
  3. ต้องหมั่นอัปเดต Wordpress, Plugin และ Theme อยู่เรื่อย ๆ

5. Webflow

Webflow (webflow.com) หนึ่งแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ฟรีที่ให้บริการสร้างเว็บแบบ no-code มีเครื่องมือใช้งานง่ายกับอินเทอร์เฟซแบบลากและวาง ทั้งข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอลงในหน้าเว็บ ช่วยในการปรับแต่งรูปแบบและเลย์เอาต์ของเว็บไซต์ให้ตรงกับที่ต้องการได้ นิยมมากในหมู่นักออกแบบ ธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์เอง

Free Plan แพ็กเกจที่ Webflow มีให้ใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถสร้างได้ 2 หน้าเว็บไซต์ต่อหนึ่งบัญชี และมีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียง 50 MB สำหรับไฟล์มีเดีย เหมาะกับผู้เพิ่งเริ่มต้นหรือต้องการทดลองใช้เครื่องมือสร้างเว็บ เพียงพอต่อการใช้งานขั้นพื้นฐาน หรือสามารถอัปเกรดเป็นแผนที่สูงขึ้นได้ในภายหลัง

ข้อดีของ Webflow

  1. ใช้งานง่ายด้วยระบบแบบลากและวาง
  2. มีเทมเพลตหลายสไตล์ให้เลือก ปรับแต่งได้ยืดหยุ่น
  3. ปรับแต่งการออกแบบให้ตอบสนองกับทุกขนาดหน้าจอได้ (Responsive design)
  4. รองรับการทำงานร่วมกันกับสมาชิกได้
  5. มีราคาให้เลือกใช้หลายแผน รวมทั้ง Free plan

ข้อเสียของ Webflow

  1. ราคาค่อนข้างสูง เพราะถึงจะมีแผนฟรี แต่ถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงหรือเชื่อมต่อโดเมนตัวเอง จำเป็นต้องอัปเกรดเป็นแผนที่มีค่าใช้จ่าย
  2. อาจมีข้อจำกัดบางฟีเจอร์ ที่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเสริม
  3. เลือกติดตั้งปลั๊กอินได้เท่าที่ Webflow กำหนดไว้เท่านั้น
  4. การย้ายข้อมูลจาก Webflow ไปยังแพลตฟอร์มอื่นทำได้ยาก เพราะมีรูปแบบโครงสร้างเฉพาะของ Webflow เอง

ข้อจำกัดการสร้างเว็บไซต์ฟรี

แม้การสร้างเว็บไซต์ฟรีจะเป็นทางเริ่มที่ดีสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็มาพร้อมกับข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาต่อไปนี้ ก่อนทำด้วยเช่นกัน

  • พื้นที่และแบนด์วิธถูกจำกัด สร้างเว็บไซต์ฟรีมักมีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงไม่กี่ร้อย MB กับแบนด์วิดท์ที่จำกัดในแต่ละเดือน อาจไม่พอสำหรับเว็บไซต์ขนาดกลาง-ใหญ่
  • มีโฆษณาของผู้ให้บริการ หลายเจ้ามักแสดงแบนเนอร์โฆษณาของตัวเองบนเว็บไซต์ฟรี ไม่สามารถปิดหรือลบออกได้ สำหรับเว็บธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือ การสร้างเว็บไซต์ฟรีอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม
  • ปรับแต่งโค้ดได้จำกัด แม้จะมีเทมเพลตให้เลือกมาก แต่การปรับแต่งโค้ดมักทำได้จำกัด หรือไม่สามารถทำได้เลยในเวอร์ชันฟรี
  • โดเมนเนมฟรีที่มาพร้อมชื่อผู้ให้บริการนำหน้า เช่น yourname.wixsite.com ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือเหมือนโดเมนเนมแบบเป็นเจ้าของเอง
  • ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ หรือจำกัดการใช้งาน เช่น อีคอมเมิร์ซ, ระบบสมาชิก, หรือส่วนเสริมบางอย่าง

ถ้าต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน ต้องการฟีเจอร์ที่ครบครัน และต้องการความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ การสร้างเว็บไซต์เสียเงินหรือจ้างมืออาชีพอย่างพวกเรา Foxbith จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว แต่ถ้าเพิ่งเริ่มต้น สร้างเว็บไซต์ฟรีก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเมื่อเทียบกับข้อดีของการสร้างเว็บไซต์ฟรีแล้ว ข้อจำกัดเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ยอมรับได้ครับ

วิธีสร้างเว็บไซต์ฟรีง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ถ้าต้องการสร้างเว็บไซต์ฟรีด้วยตัวเอง สามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ตามนี้ได้ครับ

1. เลือกแพลตฟอร์มหรือโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรี

เริ่มต้นด้วยการเลือกแพลตฟอร์มหรือโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีที่เหมาะสมกับความต้องการ โดยพิจารณาจากประเภทเว็บไซต์ที่จะสร้าง เช่น บล็อก (Blog), พอร์ตโฟลิโอ (Portfolio), เว็บไซต์ธุรกิจ หรือร้านค้าออนไลน์

จากนั้นให้ศึกษาคุณสมบัติว่าเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ ทั้งในเรื่องความง่ายของการใช้งาน ฟีเจอร์ที่มีให้ใช้ฟรี พื้นที่และแบนด์วิดท์ที่ได้รับ รวมถึงเงื่อนไข/ข้อจำกัดอื่น ๆ ควรเลือกให้เหมาะกับระดับทักษะและความต้องการใช้งาน ซึ่งโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งสิ้น

2. ออกแบบและวางโครงสร้างเว็บไซต์

เมื่อเลือกแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ฟรีได้แล้ว ให้เริ่มออกแบบวางโครงสร้างเว็บไซต์ เริ่มจากการเลือกเทมเพลตที่ถูกใจ และจัดองค์ประกอบหน้าตาตั้งแต่ เมนู, ส่วนหัว, เนื้อหา, footer ให้เป็นระเบียบ เข้าใจง่าย รองรับการแสดงผลบนหน้าจอหลากหลายขนาด เว้นช่องว่างให้พอเหมาะ ใส่รูปภาพหรือวิดีโอที่เกี่ยวข้องสร้างความน่าสนใจ และอย่าลืมปรับแต่งสีสัน font กับองค์ประกอบอื่นให้เข้ากับธีมของเว็บไซต์ด้วย

3. เพิ่มเนื้อหาและปรับแต่งเว็บไซต์

หลังออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ ให้เริ่มใส่เนื้อหาลงไป ทั้งข้อความ รูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลอื่นที่จำเป็น โดยเนื้อหาควรมีประโยชน์ ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีคีย์เวิร์ดสำคัญที่เกี่ยวข้อง เขียนให้เข้าใจง่าย กระชับ และน่าสนใจ

นอกจากส่วนเนื้อหา ก็อย่าลืมเพิ่มฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ด้วย อย่างฟอร์มติดต่อ, Live Chat, Social Sharing, ระบบ Analytics และควรปรับแต่งการตั้งค่า SEO เพื่อเพิ่มโอกาสติดอันดับในผลการค้นหาหน้าแรก

4. เผยแพร่เว็บไซต์

นตอนสุดท้ายคือเผยแพร่เว็บไซต์ ทั่วไปโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีส่วนใหญ่จะมีปุ่ม Publish, Go Live หรือ Launch site ให้ โดยระบบจะประมวลผลและอัปโหลดข้อมูลขึ้นเซิร์ฟเวอร์เองอัตโนมัติ เว็บไซต์จะออนไลน์ทันที พร้อมให้ทุกคนเข้าชมได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง ทั้งการแสดงผลบน Desktop และ Mobile เพียงเท่านี้ ใคร ๆ ก็มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ครับ

บทสรุป

เห็นได้ว่าการสร้างเว็บไซต์ฟรีด้วยตัวเองนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ฟรีที่มีให้เลือกใช้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Wix, GoDaddy, Weebly, WordPress หรือ Webflow ซึ่งแต่ละตัวล้วนมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป

ถ้าเป็นมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์สร้างเว็บไซต์มาก่อน แนะนำให้เริ่มต้นจากโปรแกรมที่ใช้ง่ายอย่าง Wix หรือ Weebly ครับ แต่ถ้ามีพื้นฐานเรื่องเว็บไซต์มาบ้างและต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่งสูง WordPress ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า ส่วน GoDaddy จะเหมาะสำหรับสร้างเว็บไซต์แบบเร่งด่วน ใช้เวลาไม่นาน ขณะที่ Webflow นั้นโดดเด่นเรื่องเว็บไซต์ที่รองรับบนมือถือและการทำงานเป็นทีม

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกใช้โปรแกรมหรือแพลตฟอร์มไหนสร้างเว็บไซต์ฟรี สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ใช้งานง่าย และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ ดังนั้นการวางแผนเนื้อหา การออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ และการใช้รูปภาพหรือวิดีโอประกอบอย่างเหมาะสม จึงเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมแล้ว ยังเป็นการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจในระยะยาวอีกด้วย

ทำเว็บไซต์กับพวกเรา Foxbith เราช่วยคุณได้

หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วยังรู้สึกว่าการสร้างเว็บไซต์ฟรีด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก ใช้เวลานาน หรือไม่มั่นใจว่าทำออกมาได้ดี ลองให้พวกเรา Foxbith ช่วยดูแลดีไหมครับ บริการรับทำเว็บไซต์ของเรานั้นครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ ออกแบบเว็บไซต์ พัฒนาส่วนเทคนิค จนถึงการซัพพอร์ตดูแลหลังการใช้งาน

ทีมงานมืออาชีพของเรา พร้อมรับฟังทุกความต้องการของคุณ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย พร้อมเสนอแนวทางในการออกแบบเว็บไซต์ที่ใช้งานได้จริง และสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การขายสินค้าออนไลน์ หรือการให้ข้อมูลบริการ